วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562

5.วิธีการประมวลผลข้อมูล

วิธีการประมวลผลข้อมูล
ระบบการประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์                                                 
วิธีการประมวลผลข้อมูลคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งได้เป็นดังนี้                                     
1) วิธีการประมวลผลแบบออฟไลน์ (Off-line Processing)
วิธีการประมวลผลแบบออฟไลน์ หมายถึงการประมวลผลที่มีการทำงานในลักษณะการเตรียมการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประมวลผล โดยใช้อุปกรณ์อินพุต และอุปกรณ์เอาต์พุต ทำการบันทึกโปรแกรมคำสั่งและข้อมูลลงบนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและนำข้อมูลนั้นส่งเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำการประมวลผลต่อไป
2) วิธีการประมวลผลแบบออนไลน์ (On-line Processing)
วิธีการประมวลผลแบบออนไลน์ หมายถึงการประมวลผลที่ใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่อยู่ห่างไกลแต่สามารถติดต่อโดยตรงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ วิธีการประมวลผลลักษณะนี้ เมื่อทำการประมวลผลเสร็จแล้ว จะเห็นผลลัพธ์ทันที ตัวอย่างเช่น ระบบการบริการฝาก-ถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ
3) วิธีการประมวลผลแบบกลุ่ม (Batch Processing)
วิธีการประมวลผลแบบกลุ่ม หมายถึงการประมวลผลโดยการจัดรวบรวมข้อมูล และแบ่งแยกข้อมูลออกเป็นกลุ่มๆ แล้วจึงส่งเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อทำงานประมวลผลครั้งเดียว ซึ่งขั้นตอนการประมวลผล จะไม่มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น ระบบการลงทะเบียนของนักศึกษา                                                                                     
- นักศึกษาแต่ละคนทำการกรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียน                                                 
- ฝ่ายทะเบียน ทำการรวบรวมใบลงทะเบียน                                                                 
- ป้อนข้อมูลจากใบลงทะเบียนทั้งหมด เก็บไว้ในแผ่นดิสก์เก็ต                                     
- ทำการประมวลผลโดยใช้ข้อมูลในแผ่นดิสก์เก็ต                                                             
- จัดทำรายงานต่างๆ เพื่อส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง                                                     
4) วิธีประมวลผลแบบแบ่งเวลา (Time Sharing Processing)
วิธีประมวลผลแบบแบ่งเวลา หมายถึงการประมวลผลที่ผู้ใช้สามารถติดต่อใช้งานคอมพิวเตอร์พร้อมๆ กันได้หลายคน (Multi-user) ลักษณะการทำงานแบบนี้คอมพิวเตอร์จะมีหน่วยประมวลผลกลางเพียงตัวเดียว สามารถทำงานในเวลาหนึ่งๆ ได้ 1 งานเท่านั้น แต่ใช้เทคนิคการแบ่งเวลาให้กับผู้ใช้แต่ละคนหมุนเวียนกันไปอย่างต่อเนื่องเช่นแบ่งเวลาใช้คนละ0.05วินาทีซึ่งเร็วมาก ทำให้ผู้ใช้แต่ละคนรู้สึกเหมือนทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเสียเวลารอคอย                                                                           
5) วิธีการประมวลผลแบบเวลาจริง (Real Time Processing)
วิธีประมวลผลแบบเวลาจริงหมายถึงการประมวลผลที่เมื่อทำการส่งข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์แล้วจะได้ผลลัพธ์ออกมาทันทีตัวอย่างเช่นการใช้บริการบัตรเครดิตตามห้างร้านต่างๆ                   

6) วิธีการประมวลผลแบบหลายโปรแกรมหรือมัลติโปรแกรมมิง (Multiprogramming)
วิธีการประมวลผลแบบหลายโปรแกรม หมายถึงการประมวลผลที่ทำให้ผู้ใช้หลายๆ คนสามารถทำงานพร้อมๆ กันได้ โดยการแบ่งหน่วยความจำออกเป็นส่วนๆ เรียกว่า Partition โดยที่งานของผู้ใช้แต่ละงานจะใช้หน่วยความจำในส่วน Partition ที่กำหนดให้เท่านั้น ซึ่งขนาดของ Partition ไม่จำเป็นต้องเท่ากัน  หลักการทำงานของวิธีการประมวลผลแบบหลายโปรแกรม เนื่องจากหน่วยประมวลผลกลางมีความเร็วในการทำงานมากกว่าหน่วยรับข้อมูล และหน่วยส่งข้อมูลออก ดังนั่นในการทำงานหนึ่งๆ จะเกิดเวลาว่างของหน่วยประมวลผลกลาง ระหว่างรอรับข้อมูลเข้าหรือรอการส่งข้อมูลออก ดังนั้นการคิดระบบให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานหุนเวียนหลายๆ งาน โดยใช้ช่วงเวลาว่างของหน่วยประมวลผลกลาง ขณะที่งานหนึ่งงานใดรอข้อมูลหรือรอการส่งข้อมูลออก การทำงานลักษณะนี้ เรียกว่า การทำงานแบบหลายโปรแกรม

7) วิธีการประมวลผลแบบมัลติโพรเซสซิง (Multiprocessing)
วิธีการประมวลผลแบบมัลติโพรเซสซิง หมายถึงการประมวลผลที่ใช้หน่วยประมวลผลกลางหลายๆ ตัว ทำงานร่วมกันและพร้อมๆ กัน เพราะงานบางอย่างต้องการความเร็วเป็นพิเศษในการประมวลผล ทำได้โดยการติดตั้งหน่วยประมวลผลกลางเพิ่มเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์หากหน่วยประมวลผลกลาใดเสีย ระบบก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น